STORY / Mar 16, 2022
สูงจากระดับน้ำทะเล 1,123 ม. ความยากในการเดิน 7/10
เดินเขาชมวิว ดูยอดเขา และนอนดูดาวที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ขุนเขาแห่งเดียวของสุพรรณบุรี ชายป่าผืนสุดท้ายของป่าห้วยขาแข้งที่ยังเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ภายในอุทยานมีกิจกรรมสุดท้าทาย ที่สายแค้มปิ้งหลายคนอยากไปพิชิตคือ “ยอดเขาเทวดา” ยอดเขาที่มีความสูงถึง 1,123 ม. เหนือระดับน้ำทะเล
โดยมีเส้นทางเดินป่าที่ค่อนข้างสูงชันประมาณ 1 กม. จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 3 (ตะเพินคี่) เปิดให้นักเดินทางได้เดินขึ้นไปชมวิว ดูยอดเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกางเต้นท์นอนดูดาวเต็มท้องฟ้าแบบจุใจ เต็มอิ่มกับรสชาติของการผจญภัยแบบครบครัน
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พต.3 ตะเพินคี่ อช.พุเตย อ.ด่านช้าง สุพรรณบุรี
035 446 237/ 081 934 2240
ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท / ค่ารถยนต์เข้าพื้นที่ คันละ 30 บาท / ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาทต่อคืน
การเดินทาง: จากตัวเมืองสุพรรณบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3460 - 3306 - 3480 มุ่งหน้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติพุเตย ระยะทางประมาณ 137 กม. จากนั้นขับรถต่อไปอีกประมาณ 20 กม. เดินทางไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 3 (ตะเพินคี่) จุดกางเต็นท์เชิงยอดเขาเทวดา จากนั้นเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 1 กม.
สูงจากระดับน้ำทะเล 888 ม. ความยากในการเดิน 5/10
มานอนชิลดูดาวกันที่โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น พักผ่อนกายสบายใจท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ เรียนรู้วิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบ้าน ก่อนไปเดินป่าขึ้นเขานารายณ์
ตามเส้นทางเดินป่าสั้น ๆ เพียง 1.5 กม. ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติงาม ไปยังจุดชมวิวห้วยต้นไฮ จุดชมวิวเก๋ ๆ สไตล์บ้านต้นไม้ที่สามารถชมวิวทะเลหมอก รวมถึงวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้แบบเต็มตา เดินทางง่าย เส้นทางไม่ชันมาก นักเดินป่ามือใหม่ก็สามารถไปเอ็นจอยและเก็บเกี่ยวความประทับใจได้อย่างเต็มที่
ที่อยู่: บ้านนาต้นจั่น ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย สุโขทัย
โทร: 088 495 7738
ค่าใช้จ่าย: ค่ารถรับส่ง พร้อมคนนำทาง 500 บาท
การเดินทาง: จากตัวเมืองสุโขทัย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1113 – 1305 มุ่งหน้าสู่ชุมชนบ้านนาต้นจั่น อำเภอศรีสัชนาลัย จากนั้นใช้บริการรถกระบะนำเที่ยว เดินทางต่ออีกประมาณ 3.5 กม. ไปยังบริเวณเชิงเขานารายณ์ แล้วเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 1.5 กม. จนถึงจุดชมวิวห้วยต้นไฮ
สูงจากระดับน้ำทะเล 1,700 ม. ความยากในการเดิน 6/10
หนึ่งในเส้นทางขึ้นภูดูดาวที่กำลังฮิตติดกระแส ผจญภัยไปตามเส้นทางธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 3 กม. ที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเชียงใหม่
เพื่อพิชิตยอดดอยแม่โถ 360 องศา บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,700 ม. จุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นดอยหัวโล้นโล่งกว้าง
สามารถชมวิวทุ่งหญ้าด้านล่างที่ปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขาได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังจะได้พบกับเหล่าน้องวัว-กระบือ ที่ออกมาโลดแล่นอย่างมีชีวิตชีวา ให้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอก ช่วงเวลาที่สวยสุดคือ ช่วงเช้าตรู่ในระหว่างเดือน พ.ย. - มี.ค. ที่สามารถสูดอากาศเย็นสบายท่ามกลางสายหมอกบาง ๆ ได้แบบฟิน ๆ นอกจากนี้ยังสามารถนอนกางเต็นท์ชมวิวหมู่ดาวระยิบระยับในยามค่ำคืนได้แบบ 360 องศา
ที่อยู่: ต.บ่อสลี อ.ฮอด เชียงใหม่
โทร: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ (088 434 4902) / บริการรถรับ - ส่ง 061 312 6106
ค่ารถรับ - ส่ง 500 บาท / ค่ากางเต็นท์ คืนละ 600 บาท
การเดินทาง: จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 - 1270 มุ่งหน้าสู่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ จากนั้นขับรถต่อไปยังทุ่งหญ้าสะวันนาอีกประมาณ 9 กม. ก่อนเดินเท้าขึ้นไปอีก 3 กม. จนถึงลานกางเต้นท์และจุดชมวิวยอดดอยแม่โถ
สูงจากระดับน้ำทะเล 2,285 ม. ความยากในการเดิน 6/10
จุดหมายในฝันของนักเดินป่าที่ต้องการพิชิตยอดดอยที่สูงเป็นอันดับ 2 ของไทยรองจากดอยอิทนนท์ บนความสูง 2,285 ม. เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
โดยใช้เส้นทางเดินป่าขึ้นไปประมาณ 3.5 กม. เพื่อชมวิวบนยอดดอยห่มผ้าปกที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์พระอาทิตย์และทะเลหมอกแบบ 360 องศา ได้อย่างสวยงามชัดเจน
นอกจากนี้ยังสามารถกางเต้นท์นอนดูดาวได้ที่ลานกางเต็นท์กิ่วลม ลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในไทย บนความสูง 1,924 ม. เหนือระดับน้ำทะเล ที่รายล้อมไปด้วยป่าสนสูงเสีอดฟ้า บรรยากาศดีงามสุดๆ
224 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง เชียงใหม่
052 080 801 / 084 483 4689
ค่าเข้าอุทยาน คนละ 50 บาท / ค่าเช่าเต็นท์ คืนละ 225 บาท / ค่าคนนำทาง คนละ 300 บาท / ค่าเช่ารถ คันละ 1,800 บาท
การเดินทาง: จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 – 3037 มุ่งหน้าสู่เขตที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก อำเภอฝาง ระยะทางประมาณ 150 กม. จากนั้นเดินทางต่ออีกประมาณ 18 กม. ไปยังลานกางเต็นท์กิ่วลม (งดใช้รถส่วนตัวขึ้นดอยหลังเวลา 15.30 น. ต้องเช่ารถของทางอุทยานฯ เท่านั้น) ก่อนเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 3.5 กม. จนถึงจุดชมวิวยอดดอยผ้าห่มปก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.
สูงจากระดับน้ำทะเล 1,767 ม. ความยากในการเดิน 6/10
เดินป่าดับร้อนแบบสบายๆ ไม่ยากมากกันที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม กาญจนบุรี กับเส้นทางเดินป่า "น้ำตกผาแตก" มุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางป่าใหญ่ในหมู่บ้านกะเหรี่ยงทิพเย เขตชายแดนไทยและพม่า ระยะทางประมาณ 6 กม. มาพบกับความเย็นชุ่มฉ่ำของน้ำตกหินปูน ขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 5 – 20 ม. และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี พร้อมสระน้ำสีเขียวอมฟ้าขนาดใหญ่ให้ลงไปแหวกว่าย และสามารถตั้งแคมป์นอนดูดาวในบริเวณรอบข้างได้ โดยพื้นที่นี้จะเปิดให้เข้าเที่ยวชมในช่วงเดือน ก.พ - พ.ค. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เท่านั้น ทำให้น้ำตกผาแตก กลายเป็นจุดหมายปักหมุดของนักท่องเที่ยวสายผจญภัยที่ต้องแย่งกันจอง คิวเพื่อเข้าไปเยือน กิจกรรมยอดฮิตคือ การแข่งปีนน้ำตกหินปูนที่น่าสนุกตื่นเต้น ทั้งยังได้สัมผัสความงดงามของน้ำตกได้อย่างเต็มอิ่ม โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ที่อยู่: 339 หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี กาญจนบุรี
โทร: 034 510 431
ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท / ค่ากางเต็นท์ 30 บาท / ค่ารถนำเที่ยว คันละ 1,000 บาท / ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1,000 บาท / ค่าลูกหาบ 1,400 บาทต่อวัน
การเดินทาง: จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จากนั้นนั่งรถของเจ้าหน้าที่อุทยานต่อไปยังเขตหมู่บ้านทิพุเย ประมาณ 9 กม. และเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 6 กม. จนถึงลานกางเต้นท์และเขตน้ำตก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.
TIP:การเลือกรองเท้าเดินป่าควรเลือกรองเท้าประเภท LIGHT HIKING BOOTS ที่เหมาะสำหรับการเดินบนทางหิน พื้นที่ไม่ราบเรียบ หรือทางลาดชันเพราะมีน้ำหนักเบา มีโครงสร้างที่แข็งแรงมีส่วนหุ้มข้อ ดอกยางหนา ช่วยในการยึดเกาะและรองรับแรงกระแทก ไม่ให้ข้อเท้าพลิกรวมถึงป้องกันเท้า ในกรณีที่อาจเกิดเตะของแข็งหรือรากไม้ได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ควรเลือกขนาดใหญ่กว่าเท้าสัก 1 นิ้ว เผื่อเท้าบวมเวลาเดินป่านาน ๆ
TAG : เส้นทางภูเขา เที่ยวภูเขา ขึ้นภูดูดาว
Traveller Man
นักเที่ยวตัวฉกาจ | Story: 25 | COMMENT: 265 | LIKE: 560
"ท่องเที่ยวไปใน ทุกที่"Comment